แหล่งกำเนิดแสง
แหล่งกำเนิดแสง สามารถปลดปล่อยรังสีออกมาได้ เช่น เทียนไข ,หลอดไฟ , ดวงอาทิตย์เป็นต้น ทำให้เราสามารถดูลักษณะการกระจายพลังงานของแต่ละความยาวคลื่นได้ (Spectral power distribution) แหล่งกำเนิดชนิดต่างๆจะให้ลักษณะการกำเนิดแสงชนิดต่างๆ จะให้ลักษณะการกระจายตัวของพลังงานไม่เหมือน
องค์กร CIE (Commission International de I’Eclairage) ได้กำหนดมาตรฐานของลักษณะกระจายพลังงานของแหล่งกำเนิดแสงที่ให้แสงสีขาว และเรียกมันว่า แหล่งแสง (IIIuminants) เนื่องจากแหล่งแสงแหล่งนี้มีอยู่หลากหลายชนิด จึงได้มีการกำหนดรูปแบบตัวเลขต่างๆขึ้นมา และใช้ในการคำนวณสเกลสี โดยแหล่งแสงเหล่านี้ จะมีอุณภูมิต่างๆ (K, เควิน) ไม่เท่ากัน ซึ่งแหล่งแสงที่เป็น warm white จะมีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำ แต่ Cool or blue white จะมีอุณภูมิสูงกว่า
A : incandescent หรือ tungsten (มีอุณหภูมิ 2856 K )
F2 (FCW, CWF , F , F02) : cool White fluorescent (มีอุณหภูมิ 4100 K)
F7 : broad brand fluorescent lamp ซึ่งเทียบเท่ากับ CIE illuminant D65 (มีอุณหภูมิ 6500 K, CRI90)
F11 : narrow tri-band fluorescent (มีอุณหภูมิ 4000 K, CRI83)
F12 : narrow tri-band fluorescent (มีอุณหภูมิ 3000 K, CRI83)
D50 : แสงของดวงอาทิตย์ ช่วงดวงอาทิตย์กำลังขึ้นหรือกำลังตก (มีอุณหภูมิ 5000 K)
D55 : แสงของดวงอาทิตย์ช่วงสายๆ หรือ บ่ายๆ (มีอุณหภูมิ 5500 K)
D65 : เป็นแหล่งแสงที่นิยมใช้มาก คือ ดวงอาทิตย์ตอนเที่ยง (มีอุณหภูมิ 6504 K)
C : แสงของดวงอาทิตย์เฉลี่ย หรือ แสงที่อยู่เหนือก้อนเมฆ (มีอุณหภูมิ 6774 K) ปัจจุบันยังมีใช้กันอยู่บ้าง
D75 : เป็นแสงของดวงอาทิตย์ช่วงเมฆครื้ม (มีอุณหภูมิ 7500 K)
Ultralume 3000 (ULT, ULT3000) : Philips warm white, tri-band fluorescent lamp (มีอุณหภูมิ 3000 K, CRI85)ซึ่งเท่ากับ CIE F 12 ใช้กันมากใน Sears stores ในอเมริกา
TL84 : Philips narrow tri-band fluorescent lamp (มีอุณหภูมิ 4000 K) เทียบเท่า CIE F11 ใช้มากใน Marks & Spencer Stores ในยุโรป
ALTO T8 : Philips fluorescent lamp (มีอุณหภูมิ 4100 K, CRI86) ใช้กันมากใน Wal-Mart Store หลังจากปี ค.ศ. 1998
แหล่งแสงเหล่านี้มีหลายหลายชนิดมาก แต่ในอุตสาหกรรมต่างๆ จะใช้กันบ่อยๆมีอยู่ 4 แหล่งแสง คือ A, F2, D65 และ C ซึ่งเป็นแหล่งแสงที่ใช้กันบ่อยมากๆ ตามบ้าน , สำนักงานและที่อื่นๆ แต่ที่ใช้กันมากที่สุดคือ D65